เสาวรส ผลไม้บำรุงสายตา

Slide65.jpg

 เสาวรส เป็นผลไม้เพื่อสุขภาพชนิดหนึ่งที่มีต้นกำเนิดในแถบทวีปอเมริกาใต้ ผลมีลักษณะกลม ผลอ่อนจะมีสีเขียว แต่เมื่อสุกแล้วจะมีหลายสีแล้วแต่สายพันธุ์ คือ สีม่วง สีเหลือง สีส้ม ซึ่งในบ้านเรานี้จะปลูกทั้ง 3 สายพันธุ์ โดยในผลเสาวรสนั้นจะมีเมล็ดจำนวนมาก มีกลิ่นคล้ายฝรั่งสุก รสออกเปรี้ยวจัด แต่บางสายพันธุ์จะมีรสออกอมหวานด้วย ในบ้านเราไม่ค่อยเป็นที่นิยม จึงมักนำไปแปรรูปเสียมากกว่า ตัวอย่างเช่น น้ำเสาวรส

       เสาวรสเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ เพราะเชื่อกันว่าสามารถช่วยลดไขมันในเส้นเลือด และที่สำคัญก็คือมีวิตามินเอและแคโรทีนอยด์ที่ช่วยบำรุงสายตา

       เสาวรสมีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตาให้เป็นปกติ ช่วยปรับจอรับภาพและแสงของดวงตาให้ทำงานได้เป็นไปตามปกติ นอกจากจะมีวิตามินเอแล้ว เสาวรสยังมีกรดซิตริก น้ำตาล และ ใยอาหาร ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด และ โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ และแร่ธาตุอื่นๆ อย่าง วิตามินซี ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคป้องกันความเจ็บป่วย ยับยั้งเชื้อราและแก้โรคนอนไม่หลับ วิตามินบี2 และ วิตามินบี3 ช่วยในเรื่องของผิวพรรณ ยับยั้งการก่อตัวของเม็ดสีช่วยทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง

       เสาวรสยังมีแมกนีเซียม ที่ช่วยดูแลควบคุมเรื่องของประสาทและกล้ามเนื้อ ลดการเกร็งแข็งของกล้ามเนื้อ ธาตุเหล็ก ช่วยในเรื่องการสร้างเม็ดเลือดแดง มีกำลังวังชาเพิ่มยิ่งขึ้น สังกะสี เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์ที่ช่วยควบคุมระดับของโปรตีนและน้ำมันในร่างกายให้สมดุล ป้องกันในเรื่องการเกิดสิว รักษาสุขภาพผิวหนัง คุณประโยชน์มีมากจนล้นผลกันเลยทีเดียว

       คุณค่าของเสาวรสมีมากมายและเด่นเหลือเกินในเรื่องของการบำรุงสายตา น้ำเสาวรสก็มีวิตามินเอสูงช่วยบำรุงสายตา ป้องกันโรคทางสายตา ตาแห้ง ทำให้มีน้ำหล่อเลี้ยงดวงตาเพิ่มขึ้น ครูกุ๊กจึงขอนำเสนอสูตรน้ำเสาวรสบำรุงสายตาให้ลองทำเองที่บ้าน

       ส่วนผสม -เสาวรส 2 – 3 ผล - น้ำเชื่อม ½ ถ้วย (หรือน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ) - น้ำต้มสุก 1 ถ้วย - เกลือป่น 1 ช้อนชา -

       วิธีทำ -ล้างเสาวรสให้สะอาด ผ่าครึ่ง แล้วนำเนื้อในพร้อมทั้งน้ำต้มสุกใส่ในเครื่องปั่น จากนั้นปั่นส่วนผสมให้เข้ากัน เทลงใส่แก้วเติมน้ำเชื่อม (หรือน้ำผึ้ง) และเกลือป่น แนะนำเสิร์ฟพร้อมกับน้ำแข็ง ร้อนๆอย่างนี้ได้เครื่องดื่มบำรุงสายตาอย่างน้ำเสาวรสทั้งดีต่อร่างกายและมีประโยชน์ ได้รับ 2 ต่อเลยทีเดียว

       ถ้าไม่มีเครื่องปั่น จะกรองเม็ดออกเอาเฉพาะน้ำก็ไม่ผิดกติกาใดๆ แต่ถ้าปั่นเม็ดได้ ก็จะได้ประโยชน์จากสารอาหารเพิ่มขึ้นอีกมาก